อาการบริเวณ คอ บ่า ไหล่ สะบัก ที่พบบ่อย มีดังนี้
ออฟฟิศซินโดรม
อาการออฟฟิศซินโดรม เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อบางมัดอย่างไม่ถูกต้องตามสรีระหรือ การใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง เช่น การเกร็งต้นคอนั่งหน้าคอมนานๆ การยกของในท่าเดิมนานๆ เป็นต้น
สาเหตุของอาการออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หดเกร็งและไม่คลายตัว จนขมวดเป็นปมก้อน (trigger point) ทำให้เลือดและออกซิเจนไม่สามารถไหวเวียนได้สะดวก ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการปวดเมื่อย หรือ ตึง คอ บ่า ไหล่ และหากปล่อยเอาไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ร่างกายจะเริ่มสร้างพังผืดมาเกาะทับหนาขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการอักเสบ ปวดมากขึ้น
หากพังผืดที่มายึดเกาะเริ่มลุกลามไปเบียดเส้นประสาทรอบข้าง ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการผิดปกติตามเส้นประสาทชุดนั้น เช่น อาจจะปวดลามขึ้นบริเวณ หู กราม ขากรรไกร กระบอกตา ศรีษะ หรือลามลงแขน หน้าอก ทำให้มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สุด หายใจลำบาก โดยไม่ทราบสาเหตุ
หากไม่ทำการรักษาให้ถูกต้อง อาการออฟฟิศซินโดรมสามารถพัฒนาไปเป็น ภาวะกระดูกคอทับเส้นประสาทได้ เนื่องจากพังืดจะเริ่มยึดเกาะและดึงรั้งให้กระดูกคอบริเวณนั้นๆ เคลื่อนผิดรูป และไปทับเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวลงแขน ปวดชาลงแขน แขนอ่อนแรง ในที่สุด
ไมเกรน
อาการปวดไมเกรนนั้น มักพบควบคู่กับ อาการออฟฟิศซินโดรม เพราะเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่ เกิดอาการตึงเครียดและหดเกร็งมากๆ เส้นประสาทบริเวณท้ายทอยจะถูกเบียด
ทำให้เส้นประสาทเกิดอาการผิดปกติขึ้นไปเป็นแนวตั้งแต่ หลังกะโหลกศีรษะ หลังหู ขมับ และกระบอกตา โดยผู้ป่วยบางเคสจะปวดเฉพาะ ขมับ และกระบอกตา แต่ในบางเคส ก็จะปวดเป็นแนวตั้งแต่ ด้านหลังกะโหลกศีรษะ หลังหู ขมับ หน้าผาก และกระบอกตา
ปวดสะบัก สะบักจม
อาการปวดสะบัก สะบักจม โดยมากจะพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม เพราะกล้ามเนื้อต้นคอ บ่า ไหล่ สะบัก จะเป็นกล้ามเนื้อมัดที่เกี่ยวเนื่องกัน
อย่างไรก็ตาม จะมีอาการปวดสะบักอีกประเภทหนึ่ง ที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการบริเวณ คอ บ่า ไหล่ เนื่องจากผู้ป่วยอาจจะใช้งานเฉพาะกล้ามเนื้อสะบักเพียงชุดเดียว จึงไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
อาการปวดสะบักนั้น หากรักษาไม่ถูกวิธี หรือหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา กล้ามเนื้อที่เกิดการอักเสบจะเริ่มหดเกร็งตัวจนไปรบกวนเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของแขน ให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดร้าวลงแขน ชาลงแขน แขนอ่อนแรง ชายิบๆ นิ้วชา เป็นต้น
ไหล่ติด
อาการไหล่ติด เกิดจากการกล้ามเนื้อหรือเอ็นบริเวนไหล่อักเสบนั้น ซึ่งสามารถเกิดจาก
- การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เช่น การตีกอล์ฟ การยกเวท เป็นต้น
- อาการออฟฟิศซินโดรมเรื้อรังที่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จนอาการลุกลามไปถึงบริเวณหัวไหล่
- อาการที่ต่อเนื่องมาจากภาวะกระดูกต้นคอมีปัญหา และลุกลามเข้าเนื้อเยื่อบริเวณไหล่
- อุบัติเหตุ การโดนกระแทก บริเวณหัวไหล่
การอักเสบจากสาเหตุดังกล่าว ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว เกร็ง และทำให้เกิดพังผืดเข้ายึดเกาะ ทำให้เอ็นและเนื้อเยื่อบริเวณนั้นยืดหยุ่นได้น้อยลง และ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของข้อไหล่ถูกจำกัด เคลื่อนไหวลำบาก เช่น ไม่สามารถยกแขนได้สุด ไขว้หลังไม่ได้ สวมใส่เสื้อผ้าลำบาก เพราะจะรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณหัวไหล่และต้นแขน
หมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท และ กระดูกคอเสื่อม
อาการที่เกิดจากกระดูกคอนั้น ไม่ว่าจะเป็นหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท กระดูกคอเสื่อม หมอนรองกระดูกคอทรุด โดยมากจะเป็นอาการที่คล้ายคลึงกัน ก็คือ มีการปวดคอร้าวลงแขน ชาลงแขน แขนอ่อนแรง ปวดตึงบ่า ปวดสะบัก ปวดหัว
ในผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการ เวียนหัว มึนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน แขนลีบ ขาอ่อนแรง เดินไม่ปกติ มีอาการไฟช็อตลงแขนหรือขา ชายิบๆ หรือแสบร้อนตามแขน เป็นต้น
ผู้ป่วยที่มีปัญหาที่กระดูกคอ จะนอนลำบาก ต้องเปลี่ยนหมอนบ่อย รู้สึกเหมือนนอนผิดท่าตลอดเวลา และจะปวดหัว ปวดคอ ตอนตื่นนอน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติของหมอนรองกระดูกและข้อต่อบริเวณต้นคอ
- เกิดจากอุบัติเหตุ การกระแทก การเหวี่ยงสะบัด การโดนกระชาก บริเวณต้นคอ
- การแบกของหนักขึ้นบ่า การสะพายกระเป๋าหนักๆ กดทับบริเวณบ่า หรือการยกของหนักโดยใช้กล้ามเนื้อต้นคอผิดจังหวะ
- การอยู่อิริยาบถที่ไม่ถูกสุขลักษณะบ่อยๆ เช่น การอยู่นท่าแหงนหน้า หรือท่าก้มหน้าเป็นเวลานานๆ
- เกิดจากอาการออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง จนพังผืดเริ่มลุกลามไปยึดเกาะหมอนรองกระดูกและข้อต่อบริเวณต้นคอ ทำให้เกิดอาการดึงรั้งและกดทับเส้นประสาท
ทำไมการรักษาของเรา จึงช่วยคุณได้
การรักษาของเราเน้นการแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุมในทุกเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันกัน โดยเราจะรักษาด้วยการ นวดแก้อาการ ที่เน้นสลายพังผืดและ ก้อนแข็ง trigger point ในชั้นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ และเส้นประสาท
เมื่อพังผืดและจุดยึดเกร็งถูกสลายออกจนหมด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ เส้นประสาท ก็จะกลับไปมีสุขภาพดีดังเดิม อาการปวด ชา ตึง แสบน้อน อ่อนแรง ก็จะหมดไป และไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีก เพราะสาเหตุหลักของปัญหาได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว
โดยการรักษาจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ
1. การคลายกล้ามเนื้อชั้นบน-ชั้นลึก
ในขั้นตอนนี้จะเป็นการทำให้กล้ามเนื้อชั้นบน และกล้ามเนื้อชั้นลึก คลายตัวจากอาการตึงเครียดและอาการหดเกร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุของ อาการตึง เมื่อย หรืออาการปวดลึกๆ ในมัดกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ
การนวดในขั้นตอนนี้จะช่วยรักษาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อในระยะเริ่มแรก ซึ่งได้แก่ อาการตึงคอ ตึงบ่า อาการกล้ามเนื้อบ่าอักเสบ กล้ามเนื้อสะบักอักเสบ เป็นต้น
2. การสลายพังผืดและจุดยึดเกร็ง (trigger point)
ในขั้นตอนนี้จะเน้นการสลายพังผืดและจุด trigger point ที่ฝังตัวอยู่ในมัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ที่ขัดขวางไม่ให้เลือดนำพาสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงได้สะดวก ทำให้เกิดอาการปวด แข็ง บริเวณ คอ ท้ายทอย หลังหู ศรีษะ ขมับ กระบอกตา บ่า ไหล่ สะบัก แขน
นอกจากนี้ จะต้องมีการสลายพังผืดที่ไปเบียดรบกวนเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ทำให้เส้นประสาทชุดนั้นๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้เกิด อาการ ชา แสบร้อน ไฟช็อต ยิบๆ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ เช่น การหายใจไม่สุด การแสบร้อนตามแขน กรามค้าง ไมเกรน แสบหนังศรีษะ หูอื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ จะมีการสลายพังผืดที่เกาะอยู่ตามข้อต่อ หรือหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อต่อ และ หมอนรองกระดูกเกิดการแข็งตัว ยึดล็อค ไม่ยืดหยุ่น ผิดรูป จนเคลื่อนตัวไปทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงแขน แขนชา แขนอ่อนแรง
การ นวดแก้อาการ ด้วยการสลายพังผืดและจุดยึดเกร็งนี้ จะเป็นการกำจัดปัญหาจากต้นเหตุอย่างแท้จริง เพราะเมื่อพังผืดถูกสลายออกจนหมดแล้ว กล้ามเนื้อ เอ็น หมอนรองกระดูก และข้อต่อ บริเวณ ต้นคอ บ่า ไหล่ สะบัก จะกลับมามีสุขภาพที่ดีดังเดิม มีความยืดหยุ่น ไม่หดเกร็ง ไม่ยึดรั้ง
เมื่อเนื้อเยื่อบริเวณที่มีปัญหาคลายตัวกลับสู่สภาพปกติ เส้นประสาทจะกลับไปทำงานได้ปกติ และเลือดสามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้นได้เต็มที่อีกครั้ง อาการปวด อาการอักเสบ รวมถึงอาการผิดปกติต่างๆ จะหายไป และไม่กลับมาอีก เพราะต้นเหตุถูกกำจัดออกไปอย่างถาวร