ก่อนผู้ป่วยจะตัดสินใจเข้ารับการรักษา ด้วยวิธีการนวดสลายพังผืด และ trigger point นั้น ผู้ป่วยควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบ
1. การนวดแก้อาการด้วยวิธีนี้ ถึงแม้ว่าจะสามารถรักษาให้อาการหายขาดได้ แต่อาจไม่ได้รักษาหายภายในครั้งเดียว
ในกรณีที่ผู้ป่วยเพิ่งเริ่มมีอาการมาไม่นาน การนวดสลายพังผืด และ trigger point ด้วยผู้ที่ชำนาญ อาจจะสามารถทำให้ดีขึ้นได้เลยภายในครั้งเดียว แต่ในทางกลับกัน หากผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังมาสักระยะหนึ่งแล้ว หรือเคยมีอาการคล้ายๆ เดิมมาก่อน ในอดีต (แม้ว่าปัจจุบันอาการจะสงบไปแล้วก็ตาม) อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่า ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้อาการหายช้า หรือเร็วนั้นจะขึ้นอยู่กับ
- ความเชี่ยวชาญของผู้นวดแก้อาการ
ผู้รักษาที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา เมื่อตรวจอาการแล้วจะรู้ทันทีว่า ต้นเหตุของอาการอยู่ที่ใด และต้องแก้ที่ตำแหน่งใด ซึ่งจะแตกต่างผู้รักษาที่ไม่มีความชำนาญโดยสิ้นเชิง เพราะผู้ที่ไม่มีความรู้ ความชำนาญ จะไม่สามารถแยกได้ว่ากล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาทที่มีความผิดปกตินั้นเป็นอย่างไร แล้วเชื่อมโยงไปที่จุดใดบ้าง ดังนั้นการรักษาโดยผู้ที่ชำนาญการ จะสามารถรักษาได้ครอบคลุม ครบถ้วน ให้ผลการรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำ และตรงจุดกว่าการรักษาโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ
- ระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการสะสมมา
ในกรณีที่มีอาการเรื้อรัง หรือมีอาการเป็นๆ หายๆ มานาน ในเคสลักษณะนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าผู้ป่วยที่เพิ่งมีอาการ เนื่องจากในผู้ป่วยที่มีอาการมานานนั้น พังผืด และ trigger point จะมีจำนวนมาก และจะแทรกลุกลามไปในชั้นกล้ามเนื้อชั้นลึกๆ หรือลามไปบริเวณใกล้เคียง หรือลุกลามจนรบกวนเส้นประสาท จึงส่งผลให้เกิดเป็นอาการชา แสบร้อน แปล๊บคล้ายไฟช็อต ขึ้นได้ ดังนั้น จึงต้องรักษาหลายครั้ง กว่าจะสลายพังผืดออกได้จนหมด
ในขณะที่ผู้ป่วยที่เพิ่งเริ่มมีอาการไม่นานนั้น จะมีพังผืด และ trigger point เพียงเล็กน้อย และจะมีอยู่เพียงกล้ามเนื้อชั้นบนๆ ไม่ได้ฝังลงลึก และไม่ได้ลุกลามไปบริเวณอื่นๆ ดังนั้น จึงใช้เวลารักษาน้อยกว่า ได้ผลที่ชัดเจนกว่า และหายไวกว่า
- สภาพกล้ามเนื้อของผู้ป่วย
ผู้ป่วยแต่ละท่านมีสภาพกล้ามเนื้อที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องของความสามารถในการคลายตัว หรือในเรื่องความหนืดแข็งของพังผืด ผู้ป่วยที่มีกล้ามเนื้อที่คลายตัวได้เร็ว หรือมีพังผืดนิ่มจะเห็นผลการรักษาที่ชัดเจน และไวกว่าผู้ป่วยที่กล้ามเนื้อที่คลายตัวช้า หรือมีพังผืดหนืดเหนียว และแข็ง
2. การนวดแก้อาการสลายพังผืด และ trigger point มีความเจ็บ
เนื่องจากการนวดสลายพังผืด และ trigger point จะเน้นไปที่การรักษาอาการของผู้ป่วยให้ทุเลา ไม่ได้เน้นเรื่องความผ่อนคลาย ดังนั้น ขณะทำการรักษา ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งจะเจ็บมาหรือน้อยนั้น จะขึ้นอยู่กับวิธีการ หรือเทคนิคของการนวดแก้อาการในแต่ละแห่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่ต้องการรักษาด้วยวิธีการนวดสลายพังผืด และ trigger point นี้ จะต้องเป็นผู้ป่วยที่พอทนความเจ็บได้บ้าง หากเป็นผู้ที่ทนความเจ็บไม่ได้เลย อาจจะต้องเลือกการรักษาทางอื่นแทน
3. อาจเกิดการระบม หรือรอยฟกช้ำขึ้นหลังจากการนวด
การนวดแก้อาการสลายพังผืดและ trigger point นั้น อาจะทำให้เกิดความระบม หรือมีรอยฟกช้ำขึ้นหลังจากการรักษา โดยส่วนใหญ่แล้วอาการระบม และรอยฟกช้ำนั้น มักไม่มีอันตรายใดๆ และสามารถจางหายไปได้เอง ซึ่งอาจจะกินระยะเวลาประมาณ 3-10 วัน โดยจะระบม หรือฟกช้ำมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการนวดรักษาของสถานที่นวดแก้อาการแต่ละแห่ง
4. ค่าใช้จ่ายในการนวดแก้อาการสลายพังผืด และ trigger point นั้นจะสูงกว่าการนวดทั่วไป
โดยปกติแล้ว ค่าใช้จ่ายในการนวดแก้อาการสลายพังผืด และ trigger point จะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการนวดทั่วไป เนื่องจากผู้ที่จะทำการนวดแก้อาการได้นั้น ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ที่นวดแผนไทยเป็น แต่จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญด้านการสลายพังผืดในกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และ ข้อต่อ มากกกว่าหมอนวดแผนไทยอย่างมาก ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์ และมีความชำนาญในด้านนี้จริงๆ มีจำนวนค่อนข้างน้อย