ปวดเข่า จี๊ดๆ ดีขึ้นได้ ด้วยการนวดสลาย Trigger point มาดูรีวิวผลการรักษากัน

ปวดเข่า จี๊ดๆ

ประวัติการเจ็บป่วย

คุณณัฐปารย์ อายุ 36 ปี มารักษากับทางคลินิกด้วยอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ทั้ง 2 ข้าง จะปวดจี๊ดบริเวณกลางหัวเข่า มีอาการมาประมาณ 2 สัปดาห์จากการเล่นเทนนิส ผู้ป่วยจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาเดินเยอะ และตอนสะพายของหนักๆ

สรุปอาการของผู้ป่วยมีดังนี้

  • ปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ทั้ง 2 ข้าง
  • ปวดกลางเข่าทั้ง 2 ข้าง
  • หากเดินเยอะ หรือสะพายของหนักๆ จะปวดเข่ามากขึ้น

ผู้ป่วยเคยเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการต่างๆ มา ดังนี้

แพทย์แผนปัจจุบัน

  • รับประทานยาแก้ปวด
  • MRI แต่ไม่พบความผิดปกติใด
  • หลังเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าว อาการปวดไม่หายไป

จนมีคนแนะนำให้มารักษากับ ชนัชพันต์คลินิก ผู้ป่วยมีความสนใจจึงได้ลองเข้ารับการรักษากับทางชนัชพันต์คลินิก และมีอาการเปลี่ยนแปลงดังนี้

หลังเข้ารับการรักษากับทางคลินิกไป 2 ครั้ง :

  • อาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ทั้ง 2 ข้างหายไป
  • ปวดกลางเข่าทั้ง 2 ข้างหายไป
  • สามารถเดินเยอะได้ โดยไม่มีอาการปวดเข่า
  • สามารถสะพายของหนักได้ โดยไม่มีอาาการปวดเข่า
  • ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่กลับมาปวดอีกเลยจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 5 ปี 4 เดือน
กลับสู่สารบัญ

ตำแหน่งกล้ามเนื้อ และเส้นประสาทที่พบปัญหาจากอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ

จากการตรวจวินิจฉัย และซักประวัติเบื้องต้น พบว่า อาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ที่ในข้อเข่าทั้ง 2 ข้างของผู้ป่วยนั้น เกิดจากการเล่นกีฬาเทนนิส

ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณที่บาดเจ็บนั้นจะเกิดอาการตึงเกร็งจนขดเป็นปมขึ้น เรียกว่า ปม trigger point ซึ่งปมเหล่านี้จะไปขัดขวางไม่ให้เลือดสามารถนำพาสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณที่ตึงเกร็งได้ ส่งผลให้บริเวณนั้นๆ เกิดอาการอักเสบอยู่ด้านในตลอด ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดๆ หายๆ ไม่หายขาด

ซึ่งจะขออธิบายตำแหน่งของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นที่ส่งผลต่ออาการปวดในข้อเข่าด้านหน้า ดังนี้

1. เส้นเอ็นบริเวณเข่าด้านหน้า

1.1. Quadriceps tendon

1.2. Patellar tendon

2 .เส้นเอ็นภายในข้อเข่า

2.1. Anterior cruciate ligament (ACL)

2.2. Posterior cruciate ligament (PCL)

3. กระดูกบริเวณข้อเข่า

3.1. กระดูก Patellar

1. เส้นเอ็นบริเวณเข่าด้านหน้า

1.1. Quadriceps tendon

เป็นเป็นเส้นเอ็นที่เชื่อมกับต้นขาด้านหน้ากับเข่า มีหน้าที่ในการเหยียดข้อเข่า เมื่อเกิดการบาดเจ็บ จะส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณเข่าด้านหน้า ทำให้เข่าฝืด มีอาการล้า บวม ขยับเข่าได้ไม่ดีเท่าที่ควร

2.2. Patellar tendon

เป็นเส้นเอ็นที่เชื่อมระหว่างกระดูก Patellar และกระดูกหน้าแข้ง มีหน้าที่ในการเหยียดขาท่อนล่างให้ตรง เมื่อเส้นเอ็นเส้นนี้มีปัญหา จะส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณเข่าด้านหน้า และอาจทำให้เกิดอาการล้าขา

2. เส้นเอ็นภายในข้อเข่า

2.1. Anterior cruciate ligament (ACL)

เป็นเส้นเอ็นในข้อเข่า เรียกสั่นๆ ว่า เอ็นไขว้หน้า เป็นเส้นเอ็นที่ ทำหน้าที่ในการควบคุมการหมุนข้อเข่า และยึดขาท่อนบน และล่างไว้ด้วยกัน

2.2. Posterior cruciate ligament(PCL)

เป็นเส้นเอ็นในข้อเข่า ที่เรียกว่า เอ็นไขว้หลัง ทำหน้าที่ในการยึดขาท่อนบนกับท่อนล่างให้ติดกัน และช่วยในการงอเข่า ร่วมไปถึงการหมุนข้อเข่าด้วย

หากเส้นเอ็นทั้ง 2 เกิดการบาดเจ็บ จะส่งผลให้เกิดอาการปวดด้านในข้อเข่า

3. กระดูกบริเวณข้อเข่า

3.1. กระดูก Patellar

เป็นลูกสะบ้าที่อยู่ด้านหน้าเข่า ถูกยึดโดยเส้นเอ็นด้านบน และล่าง หากเส้นเอ็นที่ยึดกับลูกสะบ้าเกิดตึงเกร็ง จะส่งผลให้ลูกสะบ้าเสียดสีกับกระดูกอ่อนต้นขามากขึ้น จึงทำให้ลูกสะบ้าเกิดการบาดเจ็บ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในข้อเข่าเมื่อมีการขยับ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบัน ให้คำนิยามอาการนี้ว่าเป็นภาวะ “Patellofemoral pain syndrome”

กลับสู่สารบัญ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ

อาการปวดข้อเข่าสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. การออกกำลังกาย

เช่น การวิ่ง การตีแบดมินตัน การเล่นเทนนิส การเตะฟุตบอล เป็นต้น การออกกำลังกายที่มีการย่อ กระโดด หมุนตัว สามารถทำให้กล้ามเนื้อ และเอ็นรอบหัวเข่าเกิดอาการตึงเกร็ง และบาดเจ็บได้ ส่งผลให้เกิดการสะสมตัวของ Trigger Point ซึ่งอาจจะไปแสดงอาการปวดในอนาคต การออกกำลังกายนั้น เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของวัยรุ่น และวัยทำงานที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดเข่า และหากไม่ทำการรักษาให้ถูกวิธี ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

2. การมีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก

เมื่อร่างกายมีน้ำหนักที่มากขึ้น เข่าก็ต้องรับน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อเข่าต้องรับน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมากเป็นระยะเวลานานๆ จะส่งผลให้เอ็น และกล้ามเนื้อบริเวณเข่าเกิดอาการตึงเกร็ง และได้รับบาดเจ็บ และทำให้เกิดปม trigger point ขึ้น ซึ่งปมนี้จะไปขัดขวางไม่ให้เลือดสามารถนำพาสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณหัวเข่าได้เต็มที่ ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ เกิดการอักเสบอยู่ด้านในลึกๆ ตลอดเวลา และกลายเป็นอาการปวดเป็นๆ หายๆ ในที่สุด

3. อุบัติเหตุ

เช่น การหกล้มเข่ากระแทกพื้น การเกิดอุบัติเหตุขณะเล่นกีฬา เป็นต้น การประสบอุบัติเหตุ หรือ แม้จะเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อยที่บริเวณหัวเข่านั้น หากเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ ได้ถูกการกระทบกระแทกไปแล้ว ร่างกายจะสร้างเป็นปม trigger point ขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อ และเอ็นบริเวณหัวเข่าเกิดอาการตึงเกร็ง ไม่คลายตัวออก ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการปวดเข่า และหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาการอาจลุกลามขึ้นไปที่สะโพก และหลังได้

4. การยกของที่หนักเกินไป

อาการปวดเข่านั้น สามารถเกิดจากการที่ร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักที่มากเกินกว่าที่หัวเข่าจะรับไหว ทำให้กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็นบริเวณหัวเข่าเกิดการล้า และเกร็งตัวขึ้นอย่างฉับพลัน และเกิดเป็นก้อนปม trigger point ขึ้น ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่ และเกิดเป็นอาการปวดขึ้นในที่สุด

กลับสู่สารบัญ

ทำไมการนวดสลาย Trigger Point จึงสามารถรักษาอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากหัวข้อก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ว่า หากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบบริเวณหัวเข่า มีอาการเกร็งตัวจนเกิดการบาดเจ็บ และเกิดเป็นปม Trigger point ขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถได้รับสารอาหาร และออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อและเอ็นนั้นๆ เกิดอาการล้า อ่อนแอ อักเสบลึกๆ อยู่ด้านใน และกลายเป็นอาการปวด ตึง ในที่สุด

ดังนั้น วิธีที่จะสามารถรักษาอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ได้มีประสิทธิภาพจะต้องเป็นวิธีที่สามารถกำจัดปม Trigger point ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดได้ ซึ่งจะเป็นการแก้ไขอาการที่รวดเร็ว และตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด

โดยเมื่อ Trigger point ถูกสลายออกแล้ว กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นบริเวณหัวเข่าก็จะคลายตัวอย่างถาวร เลือดก็จะสามารถนำพาสารอาหาร และออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อได้ตามปกติ อาการปวดเกร็ง และอาการอักเสบก็จะหายไป ผู้ป่วยก็จะกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และจะไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต สามารถกลับไปออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาได้เต็มที่ โดยไม่มีข้อห้าม หรือข้อจำกัดใดๆ

กลับสู่สารบัญ

ข้อควรรู้ก่อนการนวดสลายTrigger point

การนวดสลาย Trigger point เป็นวิธีการนวดแก้อาการด้วยศาสตร์เฉพาะของทางคลินิก ซึ่งจะแตกต่างจากการนวดไทยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะการรักษาของทางคลินิกจะเน้นกำจัดสาเหตุหลักของอาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ได้อย่างถาวร

อย่างไรก็ตามการรักษานี้ ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความเจ็บขณะนวด ดังนั้นผู้ป่วยจะต้องเป็นผู้ที่สามารถทนต่อความเจ็บได้ระดับหนึ่ง ซึ่งหากผู้ป่วยสามารถทนเจ็บได้มาก คุณหมอจะสามารถสลาย Trigger Point ออกได้มาก ทำให้สามารถเห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจนในระยะเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่จะบอกได้ว่าผู้ป่วยจะหายเร็ว หรือช้านั้น คือระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการมา ซึ่งถ้าหากผู้ป่วยเพิ่งเริ่มมีอาการแล้วรีบมารักษา การรักษาจะง่าย และเห็นผลค่อนข้างไว แต่ในทางตรงกันข้าม หากผู้ป่วยมีอาการเรื้อรัง หรือปล่อยให้มีอาการเป็นๆ หายๆ มาหลายครั้งโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง การรักษาก็จะยาก และกินเวลานานหลายครั้ง

สำหรับผู้ป่วยที่สนใจมารักษาสามารถอ่านข้อพึงระวังในการรักษาด้วยวิธีสลาย Trigger Point ได้ที่นี่ สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนเข้ารับการรักษา ด้วยวิธีนวดแก้อาการสลาย Trigger point

กลับสู่สารบัญ

บทส่งท้าย

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า อาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ สามารถเกิดขึ้นได้จากการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การยกของหนัก หรือการประสบอุบัติเหตุ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ สามารถทำให้กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นรอบข้อเข่าเกิดการเกร็งตัว แข็งตึง และอักเสบสะสม จะทำให้มีอาการปวดข้อเข่าได้

ซึ่งหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ ต้นเหตุหลักของปัญหา ซึ่งก็คือ Trigger Point ก็จะถูกสลายออกได้ง่าย รวดเร็ว และไม่ซับซ้อน อาการปวดเข่าแบบจี๊ดๆ ก็จะดีขึ้นได้อย่างชัดเจน ถาวร และไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต