อาการปวดหลังเกิดจากอะไร อาจไม่ใช่แค่เมื่อย แต่เป็นสัญญาณอันตรายบางอย่าง

อาการปวดหลังเกิดจากอะไร

หลัง เป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักตัวส่วนบน กระดูกสันหลังประกอบไปด้วยกระดูก 24 ชิ้น แต่ที่เป็นส่วนสำคัญของอาการปวดหลังที่พบบ่อย คือ กระดูกสันหลังส่วนล่าง 5 ชิ้น ซึ่งต่อกับกระดูกกระเบนเหน็บ กระดูกสันหลังส่วนล่างนี้เชื่อมกันด้วยข้อต่อ และมีช่องระหว่างข้อ ให้ปลายประสาทผ่านออกมาเลี้ยงกล้ามเนื้อของเรา

เมื่อเกิดอาการปวดหลัง เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักเพิกเฉย หรืออาจจะหายาแก้ปวดมารับประทานเอง เพราะคิดว่าไม่ใช่อาการร้ายแรง แต่หารู้ไม่ว่า บางครั้งอาการปวดหลังก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความผิดปกติทั่วไปเท่านั้น แต่อาจบ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงกันว่าอาการปวดหลังเกิดจากอะไร สามารถนวดแก้ให้หายเลยได้ไหม ควรนวดแบบไหนถึงได้ผล แล้วจะหาหมอนวดเก่งๆ ได้ที่ไหน ที่นี่มีคำตอบให้ค่ะ

สาเหตุของอาการปวดหลัง

สาเหตุของอาการปวดหลังสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  • อาการปวดหลังที่เกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ
  • อาการปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูก หรือข้อต่อผิดปกติ

อาการปวดหลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบ

ลักษณะของการปวดหลังจากกล้ามเนื้อหลังอักเสบนั้น โดยมากจะมีอาการปวดเฉพาะบริเวณแผ่นหลัง โดยในบางเคส อาจจะมีอาการหลังเอียงร่วมด้วย เนื่องจากกล้ามเนื้อเกิดอาการหดตัวอย่างฉับพลัน จึงทำให้เกิดการดึงรั้งไปข้างใดข้างหนึ่ง

สาเหตุของอาการกล้ามเนื้อหลังอักเสบนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อหลังจนเกิดอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น

  1. จากการอยู่ในท่าเดิมนานๆ เช่น นั่ง ก้ม งอตัว เป็นต้น
  2. การใช้กล้ามเนื้อที่มากเกินพอดี เช่น การยกของที่หนักเกินไป
  3. การขยับกล้ามเนื้อผิดจังหวะ
  4. การอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นเวลานานๆ
  5. อุบัติเหตุ ที่เกิดการกระแทก

เมื่อเกิดการอักเสบจากสาเหตุข้างต้น กล้ามเนื้อหลังจะเกิดการหดเกร็งจนเกิดเป็นก้อนแข็งภายในมัดกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่าปม trigger point ซึ่งจะไปขัดขวางการไหลเวียนเลือด เพื่อนำพาสารอาหาร และออกซิเจนในบริเวณนั้นๆ  และทำให้เริ่มเกิดอาการ ปวด ตึง เมื่อย บริเวณหลังขึ้น

โดยหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ร่างกายจะเริ่มสร้างพังผืดเข้าไปเกาะคลุมบริเวณดังกล่าว และจะยิ่งทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ เกิดอาการหดรัด เกร็งตัวมากขึ้น จนเกิดเป็นอาการปวดที่เรื้อรัง รักษาไม่หายขาด

และหากพังผืดเริ่มเกาะคลุม ลุกลามจนไปเบียดเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียง ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการผิดปกติของเส้นประสาท เช่น อาการปวดร้าวลงขา อาการชา แสบร้อน อ่อนแรง เกิดขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้ จะคล้ายคลึงกับอาการของหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แต่ถ้าหากผู้ป่วยทำ MRI จะไม่พบว่าหมอนรองกระดูกมีความผิดปกติใดๆ แพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าตัด เพราะหมอนรองกระดูกไม่ได้เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง แต่จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีอื่นแทน

ถ้าพังผืดเกาะจนลุกลามไปถึงหมอนรองกระดูก หรือข้อต่อ จะทำให้หมอนรองกระดูก และข้อต่อมีปัญหา จนกลายเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกปลิ้น กระดูกทรุด หรือกระดูกเสื่อม เป็นต้น

อาการปวดหลังที่เกิดจากหมอนรองกระดูก และข้อต่อผิดปกติ

อาการของหมอนรองกระดูก และข้อต่อที่ผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกปลิ้น กระดูกเสื่อม กระดูกทรุด หรือ SI Joint Pain เป็นต้น สาเหตุของอาการเหล่านี้มักเกิดจาก

  1. การได้รับบาดเจ็บบริเวณหมอนรองกระดูก และข้อต่ออย่างรุนแรงเช่น การล้ม การกระแทก การถูกกระชาก
  2. การใช้งานกล้ามเนื้อหลังที่หนักเกินไป จนทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อหลังอักเสบ หรือบาดเจ็บเรื้อรัง และไม่ได้รักษาให้หายสนิทตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้มีอาการปวดเป็นๆ หายๆ สะสมเรื่อยมา จนพังผืดเริ่มเกาะตามกล้ามเนื้อ และลามไปบริเวณหมอนรองกระดูก หรือข้อต่อรอบข้าง ส่งผลให้หมอนรองกระดูก และข้อต่อเริ่มมีปัญหา

ลักษณะอาการปวดหลังเนื่องจากหมอนรองกระดูก หรือข้อต่อที่มีปัญหานั้น มักจะเป็นการปวดที่มีอาการผิดปกติของเส้นประสาทร่วมด้วย เนื่องจากรอบๆ หมอนรองกระดูก และข้อต่อนั้น จะมีเส้นประสาทเชื่อมโยงกันอยู่เป็นจำนวนมาก หากหมอนรองกระดูก และข้อต่อเกิดความผิดปกติขึ้น เส้นประสาทเหล่านี้จะถูกรบกวนจนไม่สามารถทำงานได้ปกติ

ดังนั้นอาการปวดหลังเนื่องจากหมอนรองกระดูก หรือข้อต่อนั้น โดยมากมักจะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่ อาการปวดร้าวลงสะโพก ร้าวลงขา ขาชา ขาอ่อนแรง ขาแสบร้อน ระบบขับถ่ายแปรปรวน เป็นต้น

กลับสู่สารบัญ

วิธีการนวดแก้อาการปวดหลัง ที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลถาวร

การนวดที่สามารถรักษาอาการปวดหลังที่เกิดจาก กล้ามเนื้ออักเสบ หรือหมอนรองกระดูก และข้อต่อผิดปกติได้ จะต้องเป็นการนวดที่เน้นการสลายพังผืด และ Trigger point เป็นหลัก เพราะทั้ง 2 อย่างนี้คือสาเหตุต้นตอที่ทำให้เกิดอาการปวด และอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นประสาท

วิธีการนวดแก้อาการปวดหลังที่มีประสิทธิภาพนั้น จะไม่ใช่แค่การบีบนวด หรือกดคลึงไปตามบริเวณแผ่นหลังแบบที่ทำกันอยู่ทั่วๆ ไป เพราะจะไม่สามารถสลายก้อน Trigger point และพังผืดออกได้

การนวดแก้อาการที่มีประสิทธิภาพ และเป็นการแก้อาการจากต้นตอ คือ การนวดที่สามารถสลายก้อน Trigger point และพังผืด ออกได้อย่างถาวร ไม่ไห้ไปรบกวนเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ อีก ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้น และไม่กลับมาเป็นซ้ำๆ อีกในอนาคต

รวมถึงผู้นวดจะต้องมีความชำนาญ ต้องรู้ตำแหน่งสาเหตุของอาการที่แน่นอนชัดเจน จะไม่นวดสะเปะสะปะ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการอักเสบของเนื้อเยื่อบริเวณอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง

กลับสู่สารบัญ

การรักษาด้วยการนวดสลายพังผืด และจุด trigger point ทำอย่างไร

การนวดสลาย trigger point และพังผืด เป็นวิธีการนวดแก้อาการโดยเฉพาะ ซึ่งจะแตกต่างจากการนวดทั่วไปโดยสิ้นเชิง การนวดรักษาด้วยวิธีสลาย trigger point และพังผืดนั้น จะต้องอาศัยความรู้ความชำนาญของหมอผู้นวด รวมถึงประสบการณ์ในการรักษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องนวดรักษาในมัดกล้ามเนื้อชั้นตื้น มัดกล้ามเนื้อชั้นลึก เส้นเอ็น ข้อต่อ รวมถึงเส้นประสาท

การนวดแก้อาการในลักษณะนี้จะแตกต่างจากการนวดทั่วๆ ไป ตรงที่การนวดทั่วๆ ไปนั้น จะเน้นแค่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นเท่านั้น แต่การนวดสลาย trigger point และพังผืดนี้ จะเน้นแก้ปัญหาของอาการผิดปกติต่างๆ ตามแนวมัดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อต่อ และเส้นประสาท  โดยจะเริ่มจากการตรวจคลำหาปม trigger point และพังผืด และทำการคลึง เพื่อสลายออก โดยการนวดจะมีการใช้นิ้วมือ ข้อศอก รวมถึงไม้นวดเล็กๆ สลับกันไป

แม้ว่าการรักษาด้วยวิธีการนวดสลาย trigger point และพังผืดนั้นค่อนข้างให้ผลการรักษาที่ชัดเจน และถาวร เนื่องจากสามารถแก้สาเหตุของอาการได้อย่างตรงจุด แต่ข้อเสียของการนวดสลาย trigger point และพังผืด คือ ในขณะรักษาผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บกว่าการนวดทั่วไป โดยความเจ็บที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการคลึงให้ trigger point และพังผืดที่รัดอยู่ให้สลายตัวออก ถ้าจุดใดที่ไม่มี trigger point หรือพังผืด จุดนั้นจะไม่เกิดความเจ็บใดๆ ถึงแม้จะโดนกดคลึงก็ตาม

การนวดสลายพังผืดนั้น มีความปลอดภัยสูง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย เนื่องจากจะไม่มีการบิด หัก ดัด แอ่น กระชาก ใดๆ เพราะการบิด หัก ดัด แอ่น กระชากนั้น นอกจากจะไม่ใช่วิธีที่แก้ปัญหาจากต้นเหตุแล้ว ยังเป็นการกระทำที่สามารถเป็นอันตรายต่อข้อต่อ และกล้ามเนื้อของผู้ป่วยได้ เนื่องจากข้อต่อ และกล้ามเนื้อที่ถูก บิด กระชากนั้น อาจเกิดการบาดเจ็บ และเกิดพังผืดขึ้นอีก ทำให้อาการยิ่งซับซ้อน และรุนแรงมากขึ้น

ข้อพึงระวังในการรักษาด้วยการนวดแก้อาการ

ก่อนผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาอาการปวดหลัง ด้วยการนวดแก้อาการ ด้วยการสลายพังผืด และ trigger point นั้น ผู้ป่วยควรเข้าใจวิธีการรักษารวมถึงรับทราบข้อพึงระวังต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาที่สูงที่สุด โดยผู้ป่วยสามารถคลิกอ่านรายละเอียดต่างๆ ได้ที่นี่

กลับสู่สารบัญ

จะหาหมอนวดแก้อาการปวดหลัง เก่งๆ จากไหน

หมอนวด หรือผู้นวดรักษาที่เก่งๆ นั้น ปัจจุบันมีอยู่ไม่มาก เนื่องจากความเชี่ยวชาญที่เกิดขึ้นจะต้องเกิดจากการสั่งสมความรู้ ทั้งจากหลักกายวิภาคศาสตร์ และศาสตร์การนวดแผนไทยโบราณเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีประสบการณ์การรักษาที่ยาวนานหลายปี จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมหมอนวดเก่งๆ หรือผู้นวดรักษาดีๆ ถึงมีน้อยมาก

ในอดีตนั้น หมอนวด หรือผู้รักษาที่เก่งๆ มักจะถูกแนะนำกันแบบปากต่อปาก โดยจะแนะนำกันเองแค่ในกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง ในขณะที่ผู้ป่วยอีกมากมาย ต้องพลาดโอกาสที่จะรู้จัก และเข้ารับการรักษาไป

แต่ในปัจจุบันนี้ ข้อมูลข่าวสารมีอย่างทั่วถึง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ป่วยที่สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา ด้วยวิธีนวดแก้อาการ รวมถึงได้มีโอกาสรู้จักกับหมอนวด หรือผู้รักษาที่เก่งๆ ได้ไม่ยาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ป่วยก็ยังจำเป็นต้องเลือกเฟ้น และพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากหมอนวด หรือผู้รักษาที่พบเจอจากอินเทอร์เน็ตนั้นมีผสมกันไป ทั้งผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ และผู้ที่ไม่ได้มีความรู้ความชำนาญในการแก้อาการ

หมอนวดแ้กอาการปวด
กลับสู่สารบัญ

ฝากทิ้งท้าย

ถึงแม้ว่าการนวดแก้อาการนั้น จะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง ในการรักษาอาการปวดหลังก็ตาม แต่ผลการรักษาจะเห็นผลช้า หรือเร็วนั้น ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะทำการนวดรักษา เทคนิคการนวดรักษา ระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการสะสมมา หรือแม้กระทั่งความแข็งแรงของกล้ามเนื้อผู้ป่วยเอง ดังนั้น ผู้ป่วยควรนำปัจจัยเหล่านี้ มาพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจทำการรักษาด้วยวิธีการนวดแก้อาการ เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และที่น่าพึงพอใจต่อตัวผู้ป่วยเอง